คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ว่าด้วยไข้ตักกะศิลา
๏ ข้าไหว้พระพุทธ พระธรรมบริสุทธิ์ พระสงฆ์บริพาร บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ขอแต่งนิทาน เมืองตักกะศิลา ขอให้มีไชย ชะนะแก่ภัย โรคะโรคา กล่าวกลอนสอนไว้ ตามในตำรา เมืองตักกะศิลา ครั้งห่าลงเมือง พระฤาษีเมตตา เห็นเวทนา ฝูงคนตายเปลือง จึงไว้ตำรา มีมาตามเรื่อง เป็นบุญไปเบื้อง หน้าชั่วกัลปา ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายในให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เป็นบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกายขึ้นมาให้เห็น เป็นวงเป็นลาย บางคาบเป็นสาย เป็นริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เป็นวงฟกลื่นกายหมดดิบดี หมอมักว่าเป็น สันนิบาตก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพิ่งกินยา ร้อนแรงแข็งกล้าส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดพัน ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา ถ้ายังไม่รู้ ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเป็นอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาด จืดพืชยา ตามอาจารย์สอน ถ้าจะใคร่รู้ เอาเทียนส่องดู ให้รู้แน่นอน ถ้ายังมิขึ้น เร่งกินยาถอน กระทุ้งขึ้นก่อน อาบพ่นจนเห็น ถ้าทำสิ้นจบ มิขึ้นตระหลบ กินตับซ่อนเร้น ต่อเมื่อมรณา ขึ้นมาให้เห็น ดังก้านเผือกเป็น เขียวขาวแดงมี ลางบางเล่าไซร้ ไม่เจ็บไม่ไข้ อยู่อยู่ดีดี ขึ้นมาให้เห็น สองสามราตรี จึงไข้ก็มี อย่าให้รักษา ถ้าว่าล้มไข้ ลงก่อนเล่าไซร้ สองสามวันมา ผุดขึ้นให้เห็น ดำเขียวขึ้นมา ท่านให้รักษา แต่งยาติดตามถ้าว่าออกดำ ขึ้นเขียวช้ำช้ำ ดุจดังสีคราม รายทั่วกายา ดังสีหว้าห่าม ลางคาบขึ้นคล้าม สีอย่างจิงจำ เติบเท่านิ้วชี้ สองนิ้วก็มี เรียกว่าออกดำ พิเคราะห์ให้แท้ แน่แล้วจึงทำ ยาแก้ออกดำ ทำตามตำรา ฯ
๏ ๑. ถ้าว่าออกแดง สีนั้นเป็นแสง ดุจชาดหยอดทา ผุดขึ้นมาเล่า เม็ดเท่าถั่วงา สองนิ้วหัตถานิ้วหนึ่งก็มี ถ้าใช้สะท้าน ร้อนหนาวครั่นคร้าน มิได้ยื่นที่ ถ้าผุดขึ้นมา เท่าสะบ้าก็มี ลักษณะดังนี้เรียกว่าปานดำแดง เป็นวงกลมอยู่ บอกไว้ให้รู้ ปานดำพิษแรง ขึ้นแต่ครึ่งขา ว่าไว้ให้แจ้งเป็นตายคลางแคลง แบ่งเท่ากันมา ถ้าตลอดถึงเท้า เป็นกรรมของเขา แล้วอย่าสงกา ร้อยหนึ่งรอดคน เป็นพ้นปัญญา ปานแดงท่านว่า ลักษณะเหมือนกัน ขึ้นซ้ายชายหย่อน พิษมันนั้นอ่อน กว่าปานดำนั้น ให้เร่งรักษาหาแพทย์ขยัน เร่งเยียวยากัน อย่าได้ไว้ใจ ฯ
๏ ๒. ถ้าไข้ครั่นตัว แลให้ปวดหัว อย่าได้สงสัย ว่าดาวเรืองนั้น ยังดั้นอยู่ใน เหมือนโคมตามไว้ ให้พิจารณา เห็นดังหยอดชาด พร้อย ๆ ประหลาด ไปทั่วกายา พิเคราะห์เห็นแน่ แท้แล้วจึงยา ตามในตำรา ท่านมากล่าวไว้ ฯ
๏ ๓. ถ้าไข้สะท้าน ร้อนหนาวครั่นคร้าน เสียวซ่านทั่วไป ละเมอเพ้อพำ ร่ำรีร่ำไร ดุจดังผีไพร ถูกต้องแลนา ตัวตี( ตีน )เย็นซ้ำ มือกำตีนกำ บิดเบือนกายา เป็นสายโลหิต ติดในลูกตา ให้ร้อนนักหนา ดุจเปลวไฟลน ว่าไข้รากสาด ผุดขึ้นประหลาด ดำแดงขาวปน ดุจดังก้านเผือก กลิ้งเกลือกสับสน ยากินยาพ่น แก้ให้ถูกที่ ถ้าเห็นปรากฏ ดังก้านเผือกสด ดำแดงขาวมี ถ้าดำพิษแรง กว่าแดงขาวสี พิเคราะห์ให้ดี แต่งยาตามทาง ฯ
๏ ๔. ยอดดำเชิงขาว อาจารย์ท่านกล่าว ไว้เหล่าหลายอย่าง ชื่อว่าตะมอย พิษค่อยเบาบาง ฯ
๏ ๕. ถ้าฟกบวมบ้าง ชื่อมะเร็งทูมนา ฯ
๏ ๖. ถ้าเห็นเป็นแถว รีรีเป็นแนว เกี่ยวก่ายไปมา ชื่อสังวาลย์พระอินทร์ หญิงซ้ายชายขวาขึ้นต้องตำรา ตายอย่าสงสัย ชายซ้ายหญิงขวา อาจารย์ท่านว่า มิพอเป็นไร พอเยียวยาคลาย ค่อยหายค่อยไป หยูกยาเตรียมไว้ ให้ถูกทำนอง ฯ
๏ ๗. ใช้หนึ่งเล่านา ขึ้นสองต้นขา เขียวขึ้นเป็นหนอง ลางบางอย่างสี ลูกหว้างอมงอม พิษนั้นพานถ่อม ชื่อกระดาน( กระดานหิน )ยังไม่ปอกก่อน แก้ได้โดยถวิล ถ้าลอกปอกแหล่ ตายแท้อย่าหมิ่นบอกไว้ให้สิ้น อย่าได้ฉงน ฯ
๏ ๘. ถ้าดูเห็นคล้ำ อย่างลูกจิงจำ เป็นเงาในตน ชื่อมหาเมฆแล เร่งแก้ขวายขวน เห็นจะอับจน ตามแต่บุญนา ฯ
๏ ๙. อาจารย์กำหนด ชื่อหงษ์รันทด มันผุดขึ้นมา ดังไข่ปลากราย รายทั่วกายา ลิ้นกระด้าง ปากอ้า คางแข็งสลบไป ถ้ายังอ่อนอยู่ หาท่านผู้รู้ ช่วยแปรแก้ไข ถลอกปอกหมู สุดรู้จนใจ เกรียมดังไฟไหม้ ประกายคาดเหมือนกัน ฯ
๏ ๑๐. จันทรสูตรกำหนด ผุดขึ้นดังผด แขนทั้งสองนั้น ท่านให้เร่งแก้ ยาแปรจงพลัน ถ้ารู้เท่ามัน มิพอเป็นไร ฯ
๏ ๑๑. ถ้าขึ้นยอดแหลม เล็กเล็กขึ้นแซม เป็นเหล่าๆ ไป นิ้วหนึ่งสองนิ้ว อย่าได้สงสัย จะบอกชื่อไว้ ระบุชาดแลนา ฯ
๏ ๑๒. ถ้าเห็นเป็นแถว รีรีเป็นแนว ดำแดงลงมา ชื่อสายฟ้าฟาด ร้ายกาจนักหนา เร่งรัดหยูกยา ตามบุญตามกรรม ฯ
๏ ๑๓. ชื่อไฟเดือนห้า พิษแรงแข็งกล้า แดงแล้วกลับดำ ชื่อนั้นแปรไป ไฟฟ้าจงจำแก้สีที่ดำแดงได้ไม่ตาย ให้เป็นต่าง ๆ ชักปากเบี้ยวบ้าง ให้คางคลาดคลาย ชักตาแหกเหิน ให้เร่งขวนขวายแปรยาให้ผาย เห็นไม่มรณา ฯ
๏ ๑๔. ถ้าเป็นแผ่นไป หัวเล็กเล็กไซร้ เป็นเหล่าขึ้นมา มักเมื่อยกระดูก ทุกทั่วกายา บิดกายซ้ายขวา เขฬาเหนียวให้ ชื่อข้าวไหม้น้อย พิษพานจะถอย พอเยียวยาคลาย ฯ
๏ ๑๕. ถ้าเห็นสีเหลือง มือเท้าขวาซ้าย หน้านั้นเหลืองคล้าย เหมือนดอกบัวขม มักให้เป็นบิดปวดเป็นโลหิต เน่าให้สะสม จำจะบรรลัย เพราะกาฬมูตรจม กินตับทับถม มิรู้ว่าเป็นบิดนา ฯ
๏ ๑๖. ลางไข้วิปริต ตกเป็นโลหิต ทั้งเก้าทวาร มิได้เจ็บไข้ ตกเลือดออกมา จงเร่งรักษาอย่าได้ไว้ใจ
๏ ๑๗. ลางบางเป็นขด ให้เห็นปรากฏชักกลมเข้าไป แล้วชักหงายแหงน หลังแอ่นขึ้นให้ล้มลงทันใจ เพศไข้นานา ฯ
๏ ๑๘. ไข้สี่ประการ โดยดังอาจารย์ ท่านไว้ตำรา มันย่อมแกมไข้ ผุดผื่นขึ้นมา กระโดงศิลา กระโดงจ้ำ กระโดงไฟ กระโดงแกลบครบสี่ จะบอกตามที่ ยังมิเข้าใจ กระโดงหินให้เชื่อม นอนนิ่งแน่ไป มิลุกขึ้นได้ ทั้งคืนทั้งวัน กระโดงไฟร้อนพ้น ดังเอาไฟลน ร้อนมิเท่ากัน กระโดงแกลบนั้น คันพ้นอภิปราย เหลืออดเหลือกลั้น เกาจนเลือดนั้น ติดเล็บบ่หาย กระโดงน้ำนั้น กลางคืนกลางวัน มิรู้สึกกายอายุวันหนึ่ง จะถึงความตาย ให้แพทย์ทั้งหลาย พึ่งรู้เล่ห์กล ชื่อฟองสมุทรา ถ้าผุดขึ้นมา สีเขียวมัวมน ถ้าขึ้นจากอก ตกที่อับจน ชายขวาหญิงซ้าย เร่งให้ขวายขวน เห็นจะอับจน อย่าได้ไว้ใจชายซ้ายหญิงขวา อาจารย์ท่านว่า ไม่พอเป็นไร ถ้าเห็นดำดำ ดุจดังถ่านไฟ เทียมเนื้อไรไร เติบเท่าเมล็ดงา ชื่อมหานิล อย่าได้ดูหมิ่น เร่งแปรหยูกยา แต่บรรดาไข้ ในตักกะศิลา ให้พิจารณาขึ้นร้ายขึ้นดี ขึ้นอกขึ้นหน้า ตาที่(ตกที่)ร้ายหนา แปรยาจงดี แก้ตามทำนอง ให้ต้องคัมภีร์ แปรร้ายเป็นดี ก่อนอย่านอนใจ อาจารย์กำหนด ให้แต่งโอสถ กระทุ้งภายใน แล้วพ่นยานอก ให้ออกจนได้ ปรากฏแล้วไซร้ พิษจึงระเหย จึงไม่กินไส้ กินตับปอดได้ ท้องไม่ร่วงเลย ประทับสำคัญ ก่อนนั้นอย่าเฉย กินยาตามเคย แปรร้ายเป็นดี พิเคราะห์ตามไข้หนักเบาอย่างไร อย่าให้เสียที ทำตามทำนอง ให้ต้องพิธี พิเคราะห์ให้ดี จึงมีเดชา รากเท้ายายม่อม มะเดื่อทุมพร อีกรากคนทา ชิงชี่น้ำนอง ให้ต้องตำรา ปู่เจ้าเขาเขียว หญ้านางแลนา ยาศิริสรรพยาให้เอาเสมอกัน ต้มให้กินก่อน ตกถึงอุทร ออกสิ้นทุกพรรณ ท่านตีค่าถึง ตำลึงทองนั้น ทำเถิดขยัน กลั่นแกล้งกล่าวมา ยาพ่นภายนอก กระทุ้งให้ออก มานอกกายา หญ้านางใบมะขาม วัลย์เปรียงเอามา ดินประสิวแทรกยา พ่นผุดทันใจ เห็นแท้แล้วเล่า เอารากปักเข้า ขี้กาแดงใส่ แทรกดินประสิว พ่นผิวลงไป กินยาภายในเสียก่อนแลนา เอาใบมะผู้ มะเมียทั้งคู่ มะยมให้หา มะเฟืองมะกรูด มะนาวแลนา คนที่สอมา หญ้าแพรกปากควาย มะตูมเอาใบ ขมิ้นอ้อยไซร้ ศิริยาทั้งหลาย เสมอภาคหมด บดปั้นละลาย น้ำซาวข้าวกินหาย แปรร้ายเป็นดี พ่นแปรนอกนา เองรังหมาร่า ที่ร้างแรมปี หญ้าแพรกปากควาย ใบมะเฟืองมีสี ศิริยาทั้งนี้ เท่ากันบรรจง บดปั้นแท่งละลาย ซาวข้าวเป็นกระสาย ขวนขวายใส่ลงพ่นแปรแก้ย้าย หายดังจำนงค์ เป็นดีโดยจง ให้พ่อนสามครา แต่งยาครอบไข้ สาระพัดแก้ได้ ไข้ตักกะศิลา จันทน์แดงจันทน์ขาว ใบสวาดหัวคล้า ง้วนหมูคงคา สะแกจิงจำ ฟักเข้าเข้าไหม้ ฟักหวาน(ผักหวาน)บ้านไซร้ พิมเสนแทรกนำ หญ้านางมะนาว สูเจ้าจงจำ เสมอภาคเอาน้ำ ซาวข้าวละลาย เป็นยาภายใน กินประจำข้า(ประจำไข้) กว่าจะถอยคลาย ระวังแต่กาฬ จะเกิดมากมาย ทั้งหญิงทั้งชาย อย่าได้ไว้ใจ ฯ
๏ หมอเอ๋ยจงฟังสาร บุราณท่านได้กล่าวมา เป็นแพทย์ไม่ศึกษา ฉันทศาสตร์ให้เรือง รมย์ไม่รู้กำเนิดไข้ แต่ยาได้ก็ชื่นชม รักษาด้วยอารมณ์ ประโยชน์ลาภอันพึงใจ หมอนั้นท่าน เปรียบปานดังตาบอดกำเนิดใน ดันถือทิฏฐิใจ ไม่เห็นโทษในกองกรรม วางยาแต่คราวเดียว ไม่ต้องโรคยับระยำ ดังโตมราตำ ตลอดยอดอุระใน ยาผิดเป็นสองครั้ง ดังยกทุ่มเข้ากองไฟ ถ้าวางยานั้นผิดไปคำรบถ้วนเป็นสามครา ดังต้องอสุนิสาย มาฟาดกายให้มรณา กายยับด้วยพิษยา กำเริบโรคทวีไป หมอนั้นครั้นสิ้นชนม์ จะไปทนกำเนิดใน นรกอันยิ่งไฟ ทั้งไหม้น้ำทองแดงมี หมู่นายนิรยบาลประชุมเชิญด้วยยินดี เครื่องโทษบรรดามี จะยกให้เป็นรางวัล เป็นแพทย์จงเพียรเรียน ให้รอบรู้จงครบครันที่อยู่ฤดูวัน อายุปันแลเวลา สำแลงแลสงไข้ โรคอันใดจะเป็นมา รู้ใช้ให้รู้ยา รักษาตามกำเนิดใน กาดำประจำโรค โรคดังกาอันตาไว เงือดเงื้อธนูไป ก็หลีกหลบด้วยเร็วพลัน ยายิ่งธนูปาน สิงหราชก็เพียงกัน โรคดังมฤควัญญ์ จะลี้ลับหลบไปเอง โรคมีตามพงษา เป็นเวลาบุราณเพรง โทษกำหนดเกรง จะยายากด้วยแรงกรรม แพทย์ใดชำนาญรู้ กำเนิดโรคแลยายำ ยาไข้ด้วยใจธรรม เที่ยงแน่แท้ในทางบุญ ทั้งลาภก็ยิ่งลาภ แลทั้งคุณก็ยิ่งคุณ ทำบุญก็ได้บุญ ประเสริฐเลิศวิชาชาญ จักเป็นที่เสน่หา ถ้วนทุกหน้าย่อมกราบกราน ไกลใกล้ก็ไม่นาน จะไปสู่ไปง้องอน เป็นที่จะสรรเสริญ เจริญใจทั้งให้พร ครั้นถึงซึ่งม้วยมรณ์ จะได้ไปในเมืองสวรรค์ เสวยทิพย์สิ่งสุข แสนสนุกทุกวี่วัน คัมภีร์ท่านรำพรรณ ประกาศไว้แต่หลังมา ฯ
๏ เสร็จสิ้นข้าขอพร ทุกไทยเทพย์เทวา สุรารักษ์อันรักษา สถิตทั่วทุกขอบขัณฑ์ สาครสิงขร ชาติเครือลดาวัลย์ภูมิพื้นพนาสัณฑ์ ทุกถิ่นถ้ำลำเนาธาร เชิญช่วยข้าดับเข็ญ ให้เย็นสุขเกษมสาร ศัตรูที่ภัยพาล ให้เสื่อมสูญครรไลยไกล ใครเห็นให้จงพิศ สวาทชิดภิรมย์ใจ รักยิ่งเสมือนสนิทเนื้อแลพงษ์พันธุ์ ผลข้าได้แต่งไว้ ไปภายหน้าข้าขอทัน องค์พระเมตไตรยอัน ได้โปรดข้าในควร ข้ามฝั่งยังห้องแก้ว พระนิพพานอย่าแปรปรวน เมื่อยังจะเที่ยวทวน อยู่ในชาติกันดาร ขอบิดามารดร ยิ่งด้วยศฤงคาร เมียมิตรแลบุตรหลาน ให้รักร่วมหฤทัยกัน ขอข้าอย่ามีโรค หนวกบอดพิการอัน บ้าใบ้ทุกสิ่งสรรพ์ กระเทยง่อยแลสตรี เป็นชายให้เรืองรู้ รสธรรมพระคัมภีร์พุทธฉันทศาสตร์ศรี ให้เจนจบชำนาญใจ ขอข้ากำลังยิ่ง อายุยืนปัญญาไว ให้มีเมตตาไป แก่ทั่วทุกสรรพพรรค์ เกิดไหนให้เป็นแพทย์ อย่ารู้มีผู้เทียมทัน โรคสิ้นทุกสิ่งสรรพ์ ให้รอบรู้กำเนิดสรรพคุณทั้งพื้นภพ ทุกสิ่งจบบรรดายา ให้บอกด้วยภาษา จะแก้ตีอันใด ๆ จิตรเจตนาใน ให้สำเร็จทุกครั้งครา อนึ่งคนพยศถ่อย หฤทัยโทษอันพาลา ให้พ้นในพงษา ญาติมิตรสนิทเรียง เกิดไหนให้ไกลห่าง ประเทศต่างภาษาเสียง รูปรอยแลนามเรียง อย่าได้ยลได้มิตรยินมา อนึ่งข้าขอมีแลศรัทธาทุกเพลา ขอเกิดในศาสนา ตราบเท่าพระนิพพานเอย ฯ
วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอความกรุณาแสดงความคิดเห็นหรือฝากรูปภาพด้วยสำนึกความเป็นมนุษย์ที่ดี
และโปรดปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ขอบคุณมากครับ